เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวัน การดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดีไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้ด้วย เรามาดูวิธีดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านเพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกันเถอะ
1. ตู้เย็น
- ทำความสะอาดภายใน: ควรทำความสะอาดภายในตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาเพื่อขจัดกลิ่นและคราบสกปรก
- เช็คยางประตู: ยางประตูตู้เย็นควรอยู่ในสภาพที่ดีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศเย็น หากพบว่ายางมีการสึกหรอควรเปลี่ยนทันที
- ระบายความร้อน: ด้านหลังของตู้เย็นควรมีพื้นที่ให้ระบายความร้อนได้ดี เพื่อป้องกันการทำงานหนักของมอเตอร์
2. พัดลม
- ทำความสะอาดใบพัด: ใบพัดลมควรทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นที่อาจทำให้พัดลมหมุนช้าลงและกินไฟมากขึ้น
- ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์: หากพัดลมมีเสียงดังหรือหมุนช้า ควรตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์และหยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำ
- ตั้งพัดลมในที่อากาศถ่ายเทดี: การตั้งพัดลมในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดีจะช่วยให้พัดลมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. แอร์
- ล้างฟิลเตอร์บ่อยๆ: ฟิลเตอร์แอร์ควรล้างทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่จะทำให้แอร์ทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น
- ตรวจสอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์: ควรตรวจสอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งในที่แดดจัด: การติดตั้งแอร์ในที่ที่มีแสงแดดส่องมากเกินไปจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ควรติดตั้งในที่ที่มีร่มเงาหรือใช้วัสดุป้องกันแสงแดด
4. ทีวี
- ทำความสะอาดหน้าจอ: หน้าจอทีวีควรทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงที่อาจทำให้หน้าจอเสียหาย
- ไม่ควรปิดและเปิดทีวีบ่อยเกินไป: การปิดและเปิดทีวีบ่อยเกินไปจะทำให้วงจรภายในเสียหาย ควรใช้สวิตช์เปิดปิดที่อยู่บนตัวเครื่องหรือรีโมท
- เก็บในที่แห้ง: การเก็บทีวีในที่แห้งและหลีกเลี่ยงความชื้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของทีวี
5. ไมโครเวฟ
- ทำความสะอาดภายใน: ควรทำความสะอาดภายในเตาไมโครเวฟบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของคราบอาหารที่อาจทำให้เกิดกลิ่นและลดประสิทธิภาพการทำงาน
- ตรวจสอบซีลยางประตู: ซีลยางประตูควรอยู่ในสภาพที่ดีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของคลื่นไมโครเวฟ
- ใช้ภาชนะที่เหมาะสม: ควรใช้ภาชนะที่สามารถใช้ในเตาไมโครเวฟได้และหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่มีโลหะ
6. เครื่องซักผ้า
- ล้างทำความสะอาดถังซัก: ควรล้างทำความสะอาดถังซักและฟิลเตอร์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ไม่ควรใส่ผ้ามากเกินไป: การใส่ผ้ามากเกินไปจะทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและเสียหายได้ง่าย ควรใส่ผ้าตามปริมาณที่แนะนำ
- ตรวจสอบท่อน้ำ: ควรตรวจสอบท่อน้ำเข้าและท่อน้ำออกเพื่อป้องกันการอุดตันและการรั่วไหล
7. เตารีดไฟฟ้า
- ทำความสะอาดฐานเตารีด: การสะสมของคราบน้ำและสิ่งสกปรกที่ฐานเตารีดสามารถทำให้การรีดผ้าไม่เรียบและทำให้ผ้าเปื้อนได้ ใช้น้ำส้มสายชูและน้ำสะอาดผสมกันเพื่อทำความสะอาดฐานเตารีด และควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
- หลีกเลี่ยงการใช้บนพื้นผิวที่ไม่เหมาะสม: ควรใช้เตารีดบนผ้ารองรีดที่เรียบเสมอและหลีกเลี่ยงการใช้บนพื้นผิวที่มีความหยาบหรือไม่เสมอ เพราะอาจทำให้ฐานเตารีดเสียหายได้
- ถ่ายน้ำทิ้งหลังการใช้งาน: หลังการใช้งานเตารีด ควรเทน้ำที่เหลือในแท็งก์ทิ้งเสมอเพื่อป้องกันการเกิดคราบตะกรัน
8. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
- ล้างทำความสะอาดทันทีหลังใช้งาน: ควรล้างหม้อหุงข้าวทันทีหลังการใช้งานเพื่อป้องกันการสะสมของข้าวและคราบอาหารที่จะทำให้หม้อเสียหาย
- ตรวจสอบสภาพซีลยาง: ซีลยางรอบฝาหม้อหุงข้าวควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีการสึกหรอควรเปลี่ยนใหม่ทันที
- เก็บในที่แห้ง: เมื่อใช้หม้อหุงข้าวเสร็จแล้ว ควรเก็บในที่แห้งและหลีกเลี่ยงความชื้นเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
คุณสามารถรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพดี ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย อย่าลืมตรวจสอบและดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัยตลอดเวลา
