เปิดแอร์อย่างไร ให้ประหยัดไฟ สบายกระเป๋า

วิธีเปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ ลดค่าไฟฟ้าได้จริง ใช้แอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความเย็นสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟสูง
โพสเมื่อ : 2 เดือนที่แล้ว
อ่าน : 1,738
เปิดแอร์อย่างไร ให้ประหยัดไฟ สบายกระเป๋า

อากาศร้อนจัด ทำให้หลายคนต้องพึ่งพาแอร์เพื่อคลายความร้อน แต่การใช้แอร์เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายได้จริง โดยที่ยังคงความเย็นสบายให้กับบ้านของคุณ ไม่ต้องกังวลกับค่าไฟสูงอีกต่อไป พร้อมเทคนิคเด็ดๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าเคล็ดลับเหล่านี้มีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

 

เลือกแอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ (เลือกให้ถูกต้อง ประหยัดไฟสุดๆ)

การเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญมาก ควรเลือกแอร์ที่มี BTU (British Thermal Unit) ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เพราะถ้า BTU ต่ำเกินไป จะทำให้แอร์ทำงานหนัก ใช้พลังงานมากกว่าที่ควร และถ้า BTU สูงเกินไป จะทำให้แอร์เย็นเกินไปและสิ้นเปลืองไฟฟ้า การเลือก BTU ที่เหมาะสมจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดไฟ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

ตัวอย่างเช่น หากห้องมีขนาด 15 ตารางเมตร ควรเลือกแอร์ที่มี BTU ประมาณ 9,000 BTU แต่ถ้าห้องมีขนาด 30 ตารางเมตร ควรเลือกแอร์ที่มี BTU ประมาณ 18,000 BTU เป็นต้น การเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่จะช่วยลดการใช้พลังงานและทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น

 

ติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม (จัดวางให้ถูก ตำแหน่งที่ใช่)

การติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์ และช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า ตำแหน่งที่เหมาะสมควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ในที่ที่มีแสงแดดส่องตรง และควรติดตั้งในที่ที่อากาศหมุนเวียนได้ดี หลีกเลี่ยงการติดตั้งใกล้แหล่งความร้อน เช่น ตู้เย็น เตาอบ หรือแหล่งความร้อนอื่นๆ

นอกจากนี้ ควรติดตั้งแอร์ให้สูงพอสมควร แต่ไม่ควรสูงเกินไป เพื่อให้อากาศเย็นสามารถกระจายได้ทั่วถึงทั้งห้อง การติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดไฟฟ้า

 

ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (รู้จักใช้โหมดต่างๆให้เป็นประโยชน์)

แอร์ในปัจจุบันมักจะมีโหมดประหยัดพลังงานหรือ Eco Mode ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน การใช้โหมดนี้จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าโดยที่ยังคงความเย็นสบายในห้องได้เหมือนเดิม โหมดประหยัดพลังงานมักจะทำงานโดยการปรับอุณหภูมิและความเร็วของพัดลมให้เหมาะสมที่สุด

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โหมด Turbo หรือโหมดเร่งความเย็น เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักและใช้พลังงานมากขึ้น การปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและใช้โหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมาก

 

ตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม (อุณหภูมิที่เหมาะกับบ้านและกระเป๋าเงิน)

การตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมจะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก ควรตั้งอุณหภูมิให้สูงกว่าที่รู้สึกเย็นจนเกินไป ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้แอร์ในบ้านควรอยู่ที่ประมาณ 24-26 องศาเซลเซียส การตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 26 องศาเซลเซียส อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่การตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปจะทำให้แอร์ทำงานหนักและใช้พลังงานมากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้พัดลมร่วมกับแอร์จะช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึงและทำให้รู้สึกเย็นสบายมากขึ้น การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก

 

หมั่นทำความสะอาดและบำรุงรักษาแอร์ (ดูแลให้ดี แอร์จะได้อยู่กับเรานาน)

การทำความสะอาดและบำรุงรักษาแอร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน ควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยทุก 2-4 สัปดาห์ และให้ช่างมาตรวจสอบและทำความสะอาดแอร์อย่างละเอียดอย่างน้อยปีละครั้ง

การบำรุงรักษาแอร์จะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น การดูแลรักษาแอร์ให้ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์และประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

 

ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน (หยุดใช้เมื่อไม่จำเป็น)

การปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งานเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้า ควรปิดแอร์เมื่อออกจากห้องหรือเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้องนานๆ การเปิดแอร์ทิ้งไว้นอกจากจะสิ้นเปลืองไฟฟ้าแล้วยังทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นด้วย

นอกจากนี้ การใช้ระบบตั้งเวลาปิดแอร์อัตโนมัติจะช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน การใช้วิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก

 

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้แอร์ (เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยประหยัด)

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้แอร์เล็กๆ น้อยๆ จะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก ควรเปิดแอร์เฉพาะเมื่อจำเป็นและใช้ร่วมกับพัดลมหรือวิธีการระบายความร้อนอื่นๆ เช่น การเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามา การปิดม่านหรือบังแดดเพื่อลดความร้อนจากภายนอก

นอกจากนี้ การสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่สร้างความร้อนในห้องที่เปิดแอร์จะช่วยลดการใช้พลังงานและทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้แอร์เล็กๆ น้อยๆ จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว

 

สรุป (สบายกระเป๋า เย็นสบาย)

รู้หรือไม่ ว่าแอร์ใช้กำลังไฟมากกว่าพัดลมถึง 14 เท่า เทคนิคที่หลายๆคนใช้คือ เปิดพัดลมช่วยในขณะที่เริ่มเปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานน้อยลง คนในห้องจะรู้สึกเย็นสบายถึงแม้จะเปิดที่อุณหภูมิ 28-29 องศา 

การใช้แอร์ให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้จักเลือกแอร์ให้เหมาะสม ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้โหมดประหยัดพลังงาน ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม หมั่นทำความสะอาดและบำรุงรักษาแอร์ ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้แอร์เพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก ทำให้คุณสามารถใช้แอร์ได้อย่างคุ้มค่าและสบายกระเป๋า

การใช้วิธีเหล่านี้จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น คุณจึงสามารถเย็นสบายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น การใช้แอร์อย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูลบทความ

widehouse