การมีหน้าต่างหรือกระจกใสที่สะอาดไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน แต่ยังช่วยให้แสงแดดสามารถส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้น อย่างไรก็ตาม การเช็ดกระจกให้ใสนั้นอาจเป็นงานที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะทาง แต่ไม่ต้องกังวล! ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับการเช็ดกระจกให้ใสด้วยอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสบู่ น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว แอลกอฮอล์ หรือเบคกิ้งโซดา เพียงแค่มีส่วนผสมและอุปกรณ์เหล่านี้ คุณก็สามารถทำความสะอาดกระจกให้ใสได้อย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย
สบู่
สบู่เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายและมีอยู่ในทุกบ้าน แค่เพียงคุณมีสบู่เหลวหรือสบู่ก้อน ก็สามารถนำมาใช้เช็ดกระจกให้ใสได้ง่ายๆ
วิธีใช้และอัตราส่วน:
- เตรียมสบู่เหลว: ใช้สบู่เหลว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง (หากใช้สบู่ก้อน ให้ถูสบู่กับน้ำอุ่นเพื่อให้เกิดฟองสบู่)
- เตรียมผ้าชุบน้ำสบู่: ใช้ผ้านุ่มที่ไม่เป็นขนชุบน้ำสบู่แล้วบิดหมาดๆ ให้แน่ใจว่าผ้าชุบน้ำสบู่ทั่วถึง
- เช็ดกระจก: เช็ดกระจกด้วยผ้าชุบน้ำสบู่ให้ทั่วทั้งบาน ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
- เช็ดซ้ำ: ใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดซ้ำจนกระจกแห้งและใส ไม่มีคราบสบู่หลงเหลือ
ข้อดี:
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแพงๆ
- มีกลิ่นหอมของสบู่ ทำให้กระจกมีกลิ่นหอมสดชื่น
ข้อเสีย:
- อาจต้องใช้เวลาในการเช็ดซ้ำเพื่อให้กระจกใสเต็มที่
- ต้องระวังไม่ให้มีคราบสบู่หลงเหลือบนกระจก ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบได้ในภายหลัง
น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ในครัวที่สามารถนำมาเช็ดกระจกให้ใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วิธีใช้และอัตราส่วน:
- เตรียมส่วนผสม: ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำสะอาด 1 ส่วนในขวดสเปรย์
- ฉีดน้ำส้มสายชู: ฉีดส่วนผสมลงบนกระจกให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำส้มสายชูทำงานในการขจัดคราบสกปรก
- เช็ดกระจก: ใช้ผ้านุ่มหรือกระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดกระจกให้แห้ง
ข้อดี:
- สามารถกำจัดคราบสกปรกและเชื้อแบคทีเรียได้ดี
- ไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง ทำให้ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ข้อเสีย:
- มีกลิ่นแรงของน้ำส้มสายชูที่บางคนอาจไม่ชอบ
- อาจต้องระวังไม่ให้โดนผิวหนังหรือดวงตา เนื่องจากความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู
น้ำมะนาว
น้ำมะนาวมีความเป็นกรดที่สามารถช่วยทำความสะอาดกระจกให้ใสได้เช่นกัน และยังมีกลิ่นหอมสดชื่นของมะนาวที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
วิธีใช้และอัตราส่วน:
- เตรียมส่วนผสม: ผสมน้ำมะนาวสด 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงในขวดสเปรย์
- ฉีดน้ำมะนาว: ฉีดส่วนผสมลงบนกระจกให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
- เช็ดกระจก: ใช้ผ้านุ่มหรือกระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดกระจกให้แห้ง
ข้อดี:
- มีกลิ่นหอมสดชื่นของมะนาว ทำให้ห้องมีกลิ่นหอม
- สามารถขจัดคราบไขมันและคราบน้ำได้ดี
ข้อเสีย:
- อาจต้องใช้ปริมาณน้ำมะนาวมากในกรณีที่กระจกมีคราบสกปรกหนา
- อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหากโดนน้ำมะนาวนานๆ
แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในการเช็ดกระจก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคต่างๆ
วิธีใช้และอัตราส่วน:
- เตรียมส่วนผสม: ผสมแอลกอฮอล์ 70% กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:1 ในขวดสเปรย์
- ฉีดแอลกอฮอล์: ฉีดส่วนผสมลงบนกระจกให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้แอลกอฮอล์ทำงานในการขจัดคราบและเชื้อโรค
- เช็ดกระจก: ใช้ผ้านุ่มหรือกระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดกระจกให้แห้ง
ข้อดี:
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี ทำให้กระจกสะอาดปลอดภัย
- กระจกแห้งเร็วและใสเงา ไม่มีคราบน้ำหรือสารเคมีตกค้าง
ข้อเสีย:
- มีกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ที่บางคนอาจไม่ชอบ
- อาจทำให้ผิวหนังแห้งหากสัมผัสแอลกอฮอล์โดยตรงเป็นเวลานาน
เบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดาเป็นสารธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดกระจกได้ดี และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วิธีใช้และอัตราส่วน:
- เตรียมส่วนผสม: ผสมเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงให้เข้ากัน
- เตรียมผ้าชุบเบคกิ้งโซดา: ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำเบคกิ้งโซดาแล้วบิดหมาดๆ ให้แน่ใจว่าผ้าชุบน้ำเบคกิ้งโซดาทั่วถึง
- เช็ดกระจก: เช็ดกระจกด้วยผ้าชุบน้ำเบคกิ้งโซดาให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
- เช็ดซ้ำ: ใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำจนกระจกใส ไม่มีคราบเบคกิ้งโซดาหลงเหลือ
ข้อดี:
- สามารถขจัดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง
ข้อเสีย:
- อาจต้องใช้เวลาในการเช็ดซ้ำเพื่อให้กระจกใสเต็มที่
- อาจทิ้งคราบเบคกิ้งโซดาบนกระจกหากไม่ได้เช็ดออกหมด