ติดกระจกแบบไหน : เลือกให้ถูกใจและใช้งานได้ดี

เลือกกระจกที่เหมาะกับบานประตูและหน้าต่างในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของกระจก, ข้อดีข้อเสีย, และการเลือกที่เหมาะสมสำหรับบ้านแต่ละประเภท
โพสเมื่อ : 4 เดือนที่แล้ว
อ่าน : 2,539
ติดกระจกแบบไหน : เลือกให้ถูกใจและใช้งานได้ดี

บ้านคือสถานที่ที่เราต้องการความสบายและความปลอดภัยมากที่สุด และหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของบ้านก็คือกระจก ไม่ว่าจะเป็นกระจกในบานประตู หน้าต่าง หรือพื้นที่อื่นๆ การเลือกกระจกที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัยและการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย ดังนั้น การรู้จักประเภทของกระจกและการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่างๆ ของบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ประเภทของกระจก

กระจกเป็นหนึ่งในวัสดุที่สำคัญในการตกแต่งบ้านและเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ภายใน เมื่อเลือกกระจกสำหรับบานประตูหรือหน้าต่าง จำเป็นต้องเข้าใจประเภทต่างๆ ของกระจกเพื่อให้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งาน โดยทั่วไปมีประเภทของกระจกหลักๆ ดังนี้:

  1. กระจกธรรมดา (Clear Glass)
    กระจกธรรมดาหรือกระจกใส เป็นกระจกที่ไม่มีการเคลือบหรือการป้องกันพิเศษใดๆ มักจะใช้ในพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมากๆ เช่น หน้าต่างทั่วไป กระจกชนิดนี้ให้ความโปร่งใสสูงสุดและมีราคาถูก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความพิเศษ

  2. กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass)
    กระจกเทมเปอร์หรือกระจกที่ผ่านการอบความร้อนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ประตูห้องน้ำ หน้าต่างที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทก หรือกระจกในห้องครัว กระจกเทมเปอร์จะไม่แตกเป็นชิ้นเล็กๆ แต่จะมีลักษณะแตกเป็นชิ้นเล็กๆ เหมือนเม็ดทรายเมื่อโดนแรงกระแทก ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

  3. กระจกสี (Tinted Glass)
    กระจกสีเป็นกระจกที่มีการเคลือบสีเพื่อลดความร้อนจากแสงแดดและป้องกันแสง UV เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้านที่ต้องการลดความร้อนและแสงสว่างที่จ้าจนเกินไป เช่น หน้าต่างที่หันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกที่ได้รับแสงแดดมากๆ ตลอดทั้งวัน

  4. กระจกฉนวน (Insulated Glass)
    กระจกฉนวนประกอบด้วยหลายชั้นที่ช่วยในการรักษาอุณหภูมิภายในบ้าน ลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็น เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการประหยัดพลังงาน เช่น หน้าต่างในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา

  5. กระจกฟรอสต์ (Frosted Glass)
    กระจกฟรอสต์มีการเคลือบหรือทำให้เป็นลักษณะคล้ายหยาบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ช่วยป้องกันการมองเห็นจากภายนอก เหมาะสำหรับห้องน้ำหรือพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น หน้าต่างห้องน้ำหรือประตูห้องน้ำ

 

กระจกนิยมใช้

ในปัจจุบันมีการใช้กระจกหลายประเภทในบ้านแต่ละประเภทและสถานการณ์ต่างๆ การเลือกกระจกที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความสวยงามให้กับบ้านได้มากขึ้น โดยทั่วไปกระจกที่นิยมใช้มีดังนี้:

  1. กระจกใส
    กระจกใสเป็นที่นิยมในการใช้งานทั่วไป เพราะให้ความโปร่งใสสูงสุดและราคาไม่แพง มักจะใช้ในหน้าต่างทั่วไป หรือในพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมากๆ เช่น หน้าต่างห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก

  2. กระจกเทมเปอร์
    การเลือกใช้กระจกเทมเปอร์เพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน เพราะมีความทนทานสูงและแตกยาก มักใช้ในประตูห้องน้ำหรือหน้าต่างที่มีความเสี่ยงต่อการแตก เช่น หน้าต่างในห้องครัวหรือห้องน้ำ

  3. กระจกสี
    กระจกสีได้รับความนิยมในบ้านที่ต้องการลดความร้อนหรือแสงแดดที่รบกวนการอยู่อาศัย ทำให้บ้านรู้สึกเย็นสบาย และลดการใช้พลังงานในการเปิดแอร์

  4. กระจกฉนวน
    กระจกฉนวนเป็นที่นิยมในบ้านที่ต้องการประหยัดพลังงาน เพราะช่วยในการรักษาอุณหภูมิภายในบ้านได้ดี ลดการสูญเสียความร้อนในฤดูหนาวและรักษาความเย็นในฤดูร้อน

  5. กระจกฟรอสต์
    กระจกฟรอสต์ถูกเลือกใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องน้ำหรือห้องนอนที่มีหน้าต่างใกล้พื้นที่ที่มีคนเดินผ่าน ช่วยให้ได้รับแสงสว่างแต่ไม่สามารถมองเห็นภายในได้

 

ข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท

การเลือกกระจกไม่เพียงแต่เกี่ยวกับความสวยงาม แต่ยังต้องคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานและข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท:

  1. กระจกธรรมดา

    • ข้อดี: ราคาถูก, ให้ความโปร่งใสสูง, หาซื้อง่าย
    • ข้อเสีย: ไม่ทนทาน, ไม่มีการป้องกันความร้อนหรือแสง UV, แตกง่าย
  2. กระจกเทมเปอร์

    • ข้อดี: แข็งแรงและปลอดภัย, ลดการบาดเจ็บเมื่อแตก, ทนทานต่อแรงกระแทก
    • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ากระจกธรรมดา, ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความโปร่งใสสูง, ต้องใช้กระบวนการผลิตพิเศษ
  3. กระจกสี

    • ข้อดี: ลดความร้อนและแสง UV, เพิ่มความเป็นส่วนตัว, ช่วยประหยัดพลังงานในการใช้งานแอร์
    • ข้อเสีย: อาจทำให้ห้องมืดลง, ราคาแพงกว่า, มีความทึบแสง
  4. กระจกฉนวน

    • ข้อดี: ประหยัดพลังงาน, ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้าน, ลดเสียงรบกวนจากภายนอก, แข็งแรงทนทาน
    • ข้อเสีย: ราคาสูง, การติดตั้งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ, น้ำหนักมาก
  5. กระจกฟรอสต์

    • ข้อดี: เพิ่มความเป็นส่วนตัว, ให้แสงสว่างผ่านได้, ดีไซน์สวยงาม
    • ข้อเสีย: ลดความโปร่งใส, ทำความสะอาดยากกว่ากระจกใส, มีความทึบแสง

 

กระจกประเภทไหน เหมาะกับบ้านแบบไหน

การเลือกกระจกที่เหมาะสมกับบ้านของคุณขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการเฉพาะของแต่ละพื้นที่:

  1. บ้านที่ต้องการความโปร่งใสสูง: ใช้กระจกธรรมดาหรือกระจกเทมเปอร์ในพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมากๆ เช่น หน้าต่างห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ซึ่งกระจกใสจะให้แสงสว่างและความโปร่งใสสูงสุด ในขณะที่กระจกเทมเปอร์ให้ความปลอดภัยมากกว่า

  2. บ้านที่ต้องการความปลอดภัยสูง: กระจกเทมเปอร์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับประตูห้องน้ำหรือหน้าต่างที่มีความเสี่ยงต่อการแตก เช่น หน้าต่างในห้องครัวหรือห้องน้ำ ซึ่งกระจกเทมเปอร์จะไม่แตกเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

  3. บ้านที่ต้องการลดความร้อน: กระจกสีหรือกระจกฉนวนจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดและช่วยประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับหน้าต่างที่หันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกที่ได้รับแสงแดดมากๆ ตลอดทั้งวัน

  4. บ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว: ใช้กระจกฟรอสต์ในห้องน้ำหรือห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น หน้าต่างห้องน้ำหรือประตูห้องน้ำ กระจกฟรอสต์จะช่วยป้องกันการมองเห็นจากภายนอกแต่ยังคงได้รับแสงสว่าง

การเลือกกระจกให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทบ้านและการใช้งานสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการอยู่อาศัยได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความปลอดภัยให้กับบ้านของคุณด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูลบทความ

tree3 widehouse cristmas tree1 tree2
call widehouse facebook widehouse line widehouse